Monday, 8 July 2024
WORLD

รู้จัก 5 ลูกเรือในเรือดำน้ำท่องเที่ยว ‘ไททัน’ หลังสูญหายปริศนาระหว่างสำรวจซากเรือไททานิก

📌เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ (18 มิ.ย.66) ที่ผ่านมา เรือดำน้ำท่องเที่ยวที่ชื่อว่า ‘ไททัน’ ของบริษัท OceanGate เพื่อดำดิ่งสำรวจซากเรือไททานิกที่ระดับความลึก 3,800 เมตร กลางมหาสมุทรแอตแลนติก นอกชายฝั่งแคนาดา ได้ขาดการติดต่อไป

เรือดำน้ำนี้มีปริมาณออกซิเจนราว 96 ชม. หรือราว 4 วัน และเวลาผ่านมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่สามารถติดต่อได้ โดยสำหรับเรือดำน้ำดังกล่าว มีขนาดเท่ารถบรรทุก มีผู้โดยสาร 5 คน ในราคาทริปละ 250,000 ดอลลาร์/คน หรือราว 8.7 ล้านบาท โดยเป็นคนขับ 1 คนกับนักเดินทางอีก 4 คน ซึ่งประกอบไปด้วย

1. ฮามิช ฮาร์ดิง (Hamish Harding) มหาเศรษฐีพันล้านชาวอังกฤษ

ฮาร์ดิง วัย 58 ปี ถือเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งในอังกฤษ โดยได้ก่อตั้งบริษัท Action Group ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ทั้งในกรุงลอนดอน และนครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เมื่อปี 2545

ทั้งนี้ ธุรกิจของ Action Group รวมไปถึงบริษัท Action Aviation ซึ่งให้บริการนายหน้า (โบรกเกอร์) จัดซื้อเครื่องบิน รวมถึงบริการการจัดการและบริการทางการเงินให้กับสายการบินต่าง ๆ

เมื่อเดือน มี.ค. 2564 ฮาร์ดิงซึ่งปัจจุบันแต่งงานแล้วและมีลูก 2 คน เคยนั่งเรือดำน้ำลงสู่ร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา ซึ่งเป็นจุดที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรที่ระดับความลึก 10,930 เมตร ด้วยการสำรวจบริเวณร่องเป็นเวลา 4 ชม. 15 นาที

นอกจากนี้ เมื่อปีที่แล้ว เขายังเคยเป็นผู้โดยสารเพียงไม่กี่คนของยานอวกาศ Blue Origin ด้วย โดยฮาร์ดิงสำเร็จการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและด้านวิศวกรเคมี จากมหาวิทยาลัย Cambridge ในอังกฤษ 

2. สต็อกตัน รัช (Stockton Rush) ชาวอเมริกัน

รัชเป็นประธานของบริษัท OceanGate ที่ให้บริการเรือดำน้ำสำรวจซากไททานิก โดยเขาจบการศึกษาด้านวิศวกรรมอวกาศจากมหาวิทยาลัย Princeton และด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัย University of California, Berkeley ในสหรัฐฯ

แม้ปัจจุบันอยู่ในวัย 60 ต้น ๆ แล้ว แต่รัชเคยเป็นนักบินเจ็ตขนส่งที่อายุน้อยที่สุดในโลกตั้งแต่อายุ 19 ปี หลังได้รับตำแหน่งกัปตันจากสถาบันฝึกอบรมเจ็ตสายการบิน United Airlines ในปี 2524 อีกทั้งยังเคยทำงานกับบริษัทผลิตเครื่องบิน Boeing ด้วย

3. ชาห์ซาดา ดาวูด (Shahzada Dawood) นักธุรกิจชาวปากีสถาน และ ซูเลมาน ดาวูด (Suleman Dawood) บุตรชาย

ชาห์ซาดา ดาวูด วัย 48 ปี เป็นรองประธานของบริษัท Engro ในปากีสถาน ซึ่งดำเนินธุรกิจตั้งแต่ผลิตปุ๋ยไปจนถึงโรงไฟฟ้า และเป็นหนึ่งในบุคคลร่ำรวยที่สุดในประเทศ

ดาวูดจบการศึกษาด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัย Buckingham ในอังกฤษ และด้านการตลาดจากมหาวิทยาลัย Philadelphia ในสหรัฐฯ

ส่วนประวัติของซูเลมาน ลูกชายวัย 19 ปีของเขาที่มีรายงานว่าโดยสารเรือสำรวจนี้ด้วยกันนั้น ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลเพิ่มเติม

4. ปอล อองรี นาร์โฌเลต์ (Paul Henry Nargeolet) ชาวฝรั่งเศส

นาร์โฌเลต์ วัย 77 ปี เป็นนักดำน้ำและผู้เชี่ยวชาญด้านซากเรือไททานิกระดับโลก อีกทั้งนั่งตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์วิจัยใต้ทะเลสำหรับกลุ่ม Experiential Media Group ด้านการสำรวจธรรมชาติและเรือไททานิก

นาร์โฌเลต์เกิดที่เมืองชาโมนิกส์ (Chamonix) ประเทศฝรั่งเศส และหลังจากสำเร็จการศึกษาที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส เขาใช้เวลา 22 ปีในกองทัพเรือฝรั่งเศสจนขึ้นสู่ระดับผู้บังคับบัญชา และยังเป็นผู้นำการค้นพบเรือไททานิกเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2530 หลังจากร่วมกับสถาบันฝรั่งเศสสำหรับการวิจัยและสำรวจทางทะเล

สำหรับความคืบหน้าค้นหาเรือดำน้ำไททันที่ยังคงติดต่อไม่ได้ ทางหน่วยดูแลชายฝั่งของสหรัฐและแคนาดาเร่งระดมทีมเพื่อค้นหาเรือดังกล่าวด้วยเรือและเครื่องบินลาดตระเวน ซึ่งเป็นไปอย่างยากลำบากจากปัจจัยแรงกดดันของน้ำ สภาพอากาศ แสงที่ไม่เพียงพอในตอนกลางคืน รวมถึงความลึกของห้วงทะเล

ขณะเดียวกัน ทีมกู้ภัยและค้นหาต้องทำงานแข่งกับเวลา เนื่องจากออกซิเจนในเรือดำน้ำดังกล่าวใกล้หมดลงเรื่อย ๆ ซึ่งยังต้องติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิดต่อไป

เรือดำน้ำ Titan สูญหายระหว่างชมซาก ‘ไททานิค’ จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีวี่แววของเรือลำดังกล่าว

📌ปฏิบัติการค้นหาเรือดำน้ำ Titan หลังสูญหายระหว่างเที่ยวชมซาก ‘ไททานิค’ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระบุว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีวี่แววของเรือลำดังกล่าว

ทีมค้นหาของสหรัฐฯ และแคนาดากำลังแข่งกับเวลาเพื่อค้นหาเรือดำน้ำของนักท่องเที่ยวที่หายไประหว่างการดำลงไปที่ ‘ซากเรือไททานิค’ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ข้อมูลจาก BBC รายงานว่า ปฏิบัติการกู้ภัยยังคงดำเนินต่อไปในคืนกลางมหาสมุทรแอตแลนติก แต่จนถึงตอนนี้ (13.00 น.) ตามเวลาไทย ยังไม่มีวี่แววของเรือลำดังกล่าว

เรือลำที่สูญหาย คือ ‘เรือดำน้ำ Titan’ ของบริษัทเอกชน OceanGate Expeditions ข้อมูลเฉพาะระบุว่า สามารถดำได้ลึกลงไปถึง 4,000 เมตร มีการออกแบบให้มีอุปกรณ์ยังชีพ (life support) กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินสำหรับ 5 คน นาน 96 ชั่วโมง หรือ 4 วัน เจ้าหน้าที่คาดว่า มีออกซิเจนฉุกเฉินสำหรับคนบนเรืออยู่ที่ 70-96 ชั่วโมง

บริษัททัวร์ OceanGate กล่าวว่ากำลังสำรวจทางเลือกทั้งหมดเพื่อให้ลูกเรือกลับมาอย่างปลอดภัย และหน่วยงานรัฐบาลได้เข้าร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือ นี่คือสิ่งที่เรารู้จนถึงตอนนี้ 

>>ความพยายามล่าสุดในการกู้ภัย

ผู้นำปฏิบัติการค้นหาระบุในทวิตเตอร์ว่า ลูกเรือ 5 คน จมอยู่ใต้น้ำในเช้าวันอาทิตย์ และลูกเรือขาดการติดต่อประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที หลังการดำลงของเรือ โดยคาดว่าเรือดำน้ำไททันอยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 900 ไมล์ (1,450 กม.) ในขณะนั้น

พลเรือตรี จอห์น เมาเกอร์ ของหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การดำเนินการค้นหาในพื้นที่ห่างไกลแบบนี้ถือเป็นความท้าทาย

หน่วยยามฝั่งได้ส่งเครื่องบิน C-130 Hercules จำนวน 2 ลำเพื่อค้นหา โดยมีเครื่องบิน C-130 ของแคนาดาและเครื่องบิน P8 ที่ติดตั้งระบบโซนาร์ใต้น้ำเข้าร่วมด้วย

ขณะที่พลเรือตรีเมาเกอร์กล่าวว่า ต้องการความเชี่ยวชาญเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือเรือ หากพบเรือจมอยู่ใต้น้ำ และกำลังยื่นมือขอความช่วยเหลือ รวมทั้งกองทัพเรือสหรัฐฯ

>>มีใครอยู่บนเรือ?

ตามรายงานระบุว่า ใน 5 คนที่อยู่บนเรือดำน้ำไททัน มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับการยืนยัน คือ ฮามิช ฮาร์ดิง นักธุรกิจและนักสำรวจมหาเศรษฐีชาวอังกฤษวัย 59 ปี

นายฮาร์ดิงประกาศครั้งแรกว่าเข้าร่วมทีมเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และกล่าวว่า ลูกเรือประกอบด้วย นักสำรวจสองสามคน ซึ่งบางคนเคยดำน้ำในเรือ RMS Titanic มาแล้วกว่า 30 ครั้งตั้งแต่ทศวรรษ 1980

เขาเป็นประธานของ Action Aviation ซึ่งเป็นบริษัทระหว่างประเทศ ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการขายและการดำเนินงานในอุตสาหกรรมการบินเชิงธุรกิจ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

>>ลูกเรือชม Titanic ต้องจ่ายเท่าไหร่ 

บริษัท โอเชียนเกต เอ็กส์เพดิชันส์ คิดค่าใช้จ่ายเพื่อชมซากเรือไททานิค ซึ่งอยู่ใต้พื้นผิว 3,800 เมตร (12,500 ฟุต) ที่ด้านล่างของมหาสมุทรแอตแลนติก ทริป 8 วัน คนละ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 8.7 ล้านบาท

มีรายงานว่าการดำลงไปที่ซากเรือทั้งหมดรวมถึงการลงและขึ้นนั้นใช้เวลา 8 ชั่วโมง การเดินทางแต่ละครั้งกินเวลา 8 วัน ตามข้อมูลของ โอเชียนเกต และการดำน้ำแต่ละครั้งมีเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงการศึกษาการสลายตัวของซากเรือด้วย ซึ่งการดำน้ำครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2564 ตามเว็บไซต์ของบริษัท 

>>เรารู้อะไรเกี่ยวกับเรือดำน้ำไททันบ้าง?

เรือไททันเป็นเรือดำน้ำขนาด 5 คน มีน้ำหนัก 10,432 กิโลกรัม สามารถดำลงใต้ทะเลลึกสุด 13,100 ฟุต และมีอากาศสำหรับการดำรงชีพของผู้โดยสาร 5 คน นาน 96 ชั่วโมง

นอกจากการพาไปยังซากเรือไททานิคแล้ว ยังใช้สำหรับการสำรวจและตรวจสอบสถานที่ การวิจัยและการรวบรวมข้อมูล การผลิตภาพยนตร์และสื่อ และการทดสอบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในทะเลลึก

จุดที่ดำลงไปอยู่ใต้ทะเลลึก 3,800 เมตร ใต้พื้นมหาสมุทรแอตแลนติก ห่างจากชายฝั่งรัฐนิวฟันด์แลนด์ของแคนาดา ราว 600 กิโลเมตร เป็นจุดที่เรือไททานิคจมสู่ใต้ทะเล

‘เอลนีโญ’ ส่งผลอุปทานโกโก้ลดลง ดันราคาพุ่งแตะนิวไฮในรอบ 7 ปี

‘ช็อกโกแลต’ ขนมหวานทานเล่นของโปรดของใครหลายคน ขณะนี้กำลังเผชิญราคาแพงที่ยากจะควบคุมได้ โดย NielsenIQ บริษัทให้บริการฐานข้อมูลลูกค้าออกมาเปิดเผยว่า ในปี 2565 ราคาช็อกโกแลตทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้น 14% โดยให้เหตุผลว่าต้นทุนหลักในการทำช็อกโกแลตอย่าง ‘โกโก้’ มีราคาสูงขึ้นนั่นเอง

ทั้งนี้ ราคาโกโก้เมื่อวันศุกร์ (16 มิ.ย.66) ที่ผ่านมา พุ่งทะยานไปที่ 3,160 ดอลลาร์ หรือเกือบ 1.1 แสนบาท ต่อเมตริกตัน ถือเป็นราคาสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. 2559 (สูงสุดในรอบ 7 ปี)

เหตุผลที่ราคา ‘โกโก้’ แพงขึ้นมีสาเหตุเกี่ยวโยงกับ ‘ปรากฏการณ์ธรรมชาติ’ ที่กำลังพ่นพิษใส่มนุษยชาติอย่าง ‘ปรากฏการณ์เอลนีโญ’ โดยเซอร์เกย์ เชตเวอร์ทาคอฟ (Sergey Chetvertakov) นักวิเคราะห์ของบริษัท S&P Global Commodity Insights ซึ่งให้บริการข้อมูลด้านพลังงานและโภคภัณฑ์ เปิดเผยกับสำนักข่าว CNBC ว่า…

“อุปทานโกโก้ที่ลดลงเกิดจากปรากฏการณ์ ‘เอลนีโญ’ ที่ส่งผลให้ปริมาณฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ย และพัดพาลม ‘ฮามัททาน’ (Harmattan) ที่มีกำลังแรงเคลื่อนไปยังทวีปแอฟริกาตะวันตก ส่งผลกระทบแหล่งเพาะปลูกใหญ่ต้นโกโก้ อย่างประเทศโกตดิวัวร์ หรือไอวอรีโคสต์ และประเทศกานา ซึ่งครองสัดส่วน 60% ของการผลิตโกโก้ทั่วโลก”

นอกจากนี้เชตเวอร์ทาคอฟยังคาดการณ์ด้วยว่า ราคาโกโก้ฟิวเจอร์สามารถพุ่งสูงถึง 3,600 ดอลลาร์ต่อเมตริกตันได้

ทางด้าน แอนดรูว์ โมริอาร์ตี (Andrew Moriarty) ผู้อำนวยการบริษัท Mintec ให้ความเห็นว่า “เนื่องด้วยโกโก้ทำมาจากไขมันโกโก้เป็นหลัก ราคาไขมันโกโก้ที่สูงขึ้นจึงกระทบต่อราคาช็อกโกแลตโดยตรง” 

อีกทั้งบริษัทฐานข้อมูลโภคภัณฑ์อาหาร Mintec ได้เปิดเผยในทางเดียวกันว่า ราคาไขมันโกโก้ที่เพิ่มขึ้น 20.5% นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ยังส่งผลให้ราคาช็อกโกแลตบาร์ปรับสูงขึ้น

นอกจากปัญหาอุปทานโกโก้ที่ลดลงแล้ว ปัจจัยจากราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และราคาน้ำตาลที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปีเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา (สาเหตุมาจากภัยแล้ง) ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาช็อกโกแลตแพงขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตามในบรรดาช็อกโกแลตหลายประเภทที่มีอยู่ ‘ดาร์กช็อกโกแลต’ หรือช็อกโกแลตเข้มจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนโกโก้ที่สูงขึ้นมากที่สุด เนื่องจากมีส่วนผสมของเนื้อโกโก้ ไขมันโกโก้ และน้ำตาล ราว 50-90% มากกว่าที่ผสมในช็อกโกแลตขาวและช็อกโกแลตนม

อ้างอิง: https://www.cnbc.com/2023/06/13/chocolate-is-set-to-get-more-expensive-as-cocoa-prices-soar-to-seven-year-highs.html

'สี จิ้นผิง' พบปะ 'บลิงเคน' ณ กรุงปักกิ่ง เผยอยากเห็น 2 ฝ่ายยุติแรงกดดันระหว่างกัน

📌เมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.66) สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน พบปะกับแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ณ อาคารมหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน

สีจิ้นผิงชี้ว่าโลกต้องการความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ที่มีเสถียรภาพในภาพรวม และการที่ทั้งสองประเทศแสวงหาหนทางอันถูกต้องเพื่ออยู่ร่วมกันได้นั้นจะส่งผลต่ออนาคตของมนุษยชาติ พร้อมเสริมว่าชาวจีนเป็นผู้มีเกียรติศักดิ์ศรี ความมั่นใจ และพึ่งพาตนเองได้เช่นเดียวกับชาวอเมริกัน โดยประชาชนทั้งสองประเทศมีสิทธิแสวงหาชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

ทั้งสองประเทศควรปฏิบัติตนด้วยสำนึกของการรับผิดชอบต่อประวัติศาสตร์ ประชาชน และโลก รวมถึงจัดการความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งควรให้คุณค่ากับผลประโยชน์ร่วมของทั้งสองประเทศ และความสำเร็จของอีกฝ่ายถือเป็นโอกาสมากกว่าภัยคุกคามต่อกัน โดยวิธีนี้ จีนและสหรัฐฯ อาจมีส่วนส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงและปั่นป่วนให้มีเสถียรภาพ ความแน่นอน และความสร้างสรรค์มากขึ้น

สีจิ้นผิงเน้นย้ำว่าการแข่งขันของประเทศขนาดใหญ่ไม่สะท้อนกระแสธารแห่งยุคสมัย และยังคงไม่สามารถแก้ปัญหาของอเมริกาเองหรือความท้าทายต่าง ๆ ที่โลกกำลังเผชิญได้ โดยจีนเคารพผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และไม่ได้แสวงหาการท้าทายหรือแทนที่สหรัฐฯ

ทำนองเดียวกัน สหรัฐฯ จำเป็นต้องเคารพจีน และต้องไม่ละเมิดสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของจีน โดยทั้งสองฝ่ายไม่ควรมุ่งกดดันอีกฝ่ายตามความประสงค์ของตัวเอง หรือลิดรอนสิทธิอันชอบธรรมในการพัฒนาของอีกฝ่าย

สีจิ้นผิงกล่าวว่าจีนหวังเห็นความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ที่แข็งแรงและมั่นคงมาโดยตลอด และเชื่อว่าประเทศขนาดใหญ่ทั้งสองสามารถเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ และแสวงหาหนทางอันถูกต้องเพื่ออยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทุกฝ่าย พร้อมเรียกร้องฝ่ายสหรัฐฯ ใช้ท่าทีที่มีเหตุผลและปฏิบัติได้จริง รวมถึงทำงานกับจีนในทิศทางเดียวกัน

ทั้งนี้ สีจิ้นผิงชี้ว่าทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องยึดมั่นความเข้าใจร่วมกันที่เขาและประธานาธิบดีโจ ไบเดน บรรลุในจังหวัดบาหลีของอินโดนีเซีย และปฏิบัติตามแถลงการณ์เชิงบวกเพื่อสร้างเสถียรภาพและปรับปรุงความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ต่อไปด้วย

‘เกาหลีใต้’ นำเข้า ‘อาหารทะเลญี่ปุ่น’ ลดลง 2 เดือนติด เหตุกังวลแผนปล่อยน้ำปนเปื้อนสารพิษลงแปซิฟิก

🔴(19 มิ.ย.) สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรเกาหลี ระบุว่าปริมาณการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงปลามีชีวิต ปลาแช่เย็น ปลาแช่แข็ง และหอย ในเดือนพฤษภาคม ลดลงร้อยละ 30.6 จากปีก่อน อยู่ที่ 2,129 ตัน หลังจากลดลงร้อยละ 26 ในเดือนเมษายน

🟢รายงานระบุว่าปริมาณการนำเข้าปลาและหอยจากญี่ปุ่นที่ลดลงนี้อาจเกี่ยวข้องกับความกังวลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประมงของญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นก่อนญี่ปุ่นปล่อยน้ำเสียปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีตามแผนการในฤดูร้อนปีนี้ ขณะสื่อท้องถิ่นญี่ปุ่นรายงานว่าการทดสอบระบบปล่อยน้ำเสียเริ่มดำเนินงานเมื่อสัปดาห์ก่อน

⚪อนึ่ง ปริมาณการนำเข้าผลิตภัณฑ์ประมงจากญี่ปุ่นของเกาหลีใต้อยู่ที่ 7,475 ตัน ในเดือนพฤษภาคม 2010 หรือประมาณหนึ่งปีก่อนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะฯ ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิขนาดใหญ่ ซึ่งมากกว่าปริมาณการนำเข้าในเดือนเดียวกันของปีนี้ 3 เท่า เกาหลีใต้สั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลทั้งหมดจาก 8 จังหวัดของญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้จังหวัดฟุกุชิมะ หลังจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฯ เผชิญภัยพิบัติครั้งรุนแรง


© Copyright 2023, All rights reserved. THE TOMORROW
Take Me Top