📌หุ้น EA กลับเข้าเรดาร์นักลงทุนอีกครั้ง หลังโบรกฯ คาดยอดส่งมอบ EV Bus เริ่มกระเดื้อง ก่อนพีคสุด H2/66 มองอุตสาหกรรม EV อยู่ในรอบการเติบโต สบโอกาสอัพกำลังผลิตแบตเตอรี่ Q3/66 สู่ระดับ 2 GWh ก่อนถึงระดับ 4 GWh ช่วง Q1/67 ดันงบปี 66 - 68 โตเฉลี่ย 15% ต่อปี แถมมอง Valuation หุ้นยังถูก
>>กลับสู่ความสนใจ รับงบ Q2/66 โต YoY
หุ้น บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กลับสู่ความสนใจของนักลงทุนอีกครั้ง หลังนักวิเคราะห์ในตลาดคาดการณ์ว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/66 ของ EA มีแนวโน้มจะเติบโตขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
โดย บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) พาย ระบุสาเหตุที่ทำให้คาดว่า กำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ของ EA จะเดิบโตขึ้นจากปีก่อนเป็นเพราะได้รับแรงหนุน จากยอดขายรถบัสไฟฟ้า (EV Bus) ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เบื้องต้นคาดการณ์ไว้ที่ราว 800 คัน
นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุน จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพราะคาดว่า ฤดูฝนของปีนี้จะสั้นกว่าปีก่อน สืบเนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญ โดยคาดว่า ปัจจัยทั้งหมดจะชดเชยผลกระทบจากราคาขายในธุรกิจไบโอดีเซลที่ลดลง หลังอุปทานล้นตลาด
>> คาด H2/66 เร่งส่งมอบ EV Bus มากขึ้น
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่าการส่งมอบ EV Bus ของ EA จะสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง เพราะยังอยู่ในช่วงการส่งมอบให้กับกลุ่ม Thai Smile Bus ที่ต้องเร่งเพิ่มจำนวนรถเพื่อให้ครอบคลุมเส้นทางที่ได้รับสัมปทาน (เพิ่มเป็นอย่างน้อย 3 พันคัน จากเดิม 2 พันคัน)
ขณะเดียวกัน บริษัทเริ่มมีการเจรจากับหน่วยงานต่างประเทศ เพื่อเสนอขาย EV Bus เพิ่มเติมเช่นกัน ทั้งนี้ เราคาดว่า ความคืบหน้าทั้ง 2 ดีล จะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 66 (H2/66)
เช่นเดียวกับ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ที่มองว่า การส่งมอบ EV Bus ของ EA จะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ช่วงครึ่งหลังของ 1/66 โดยบริษัทยังคงเป้าส่งมอบ EV Bus ให้กับกลุ่ม Thai Smile Bus ไม่ต่ำกว่า 3 พันคัน ภายในปี 66
>>จ่อเพื่อกำลังผลิตแบตเตอรี่ รับอุปสงค์พุ่ง
บล.พาย ระบุว่า EA ประเมินอุปสงค์ในปี 68 ด้วยมูลค่าแบตเตอรี่ EV สำหรับรถเพื่อการพาณิชย์ในไทย จะสามารถยืนเหนือระดับ 4.5 GWh ได้ ส่งผลให้บริษัท มีแผนจะขยายกำลังการผลิตธุรกิจแบตเตอรี่เป็น 2 GWh ในช่วงไตรมาส 3/66 และจะเพิ่มเป็น 4 GWh ในไตรมาส 1/67
ทั้งนี้ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแผนการเพิ่มกำลังผลิตดังกล่าวของ EA เนื่องจากมีความเห็นสอดคล้องกับบริษัท ว่าอุปสงค์ของตลาดดังกล่าว มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี และคาดว่า โครงการดังกล่าว จะสามารถสร้างผลตอบแทนดีให้กับ EA ได้ในระยะยาว
>>EV ขาขึ้น ดันกำไรปี 66-68 โตเฉลี่ยน 15%
บล.พาย ประเมินกำไรปกติปี 66 - 68 ของ EA มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี มีปัจจัยหนุนจากยอดขายรถบัส และ รถบรรทุกไฟฟ้า ที่เติบโตขึ้น โดยคาดปี 66 จะเพิ่มเป็น 3.3 พันคัน เทียบปีก่อนอยู่ที่ 1.16 พันคัน ก่อนจะเพิ่มสู่ระดับ 4 - 5 พันคัน/ปี ในช่วงปี 67 - 68 หนุนโดยกำลังซื้อของลูกค้าหลักอย่างกลุ่ม Thai Smile Bus
ปัจจุบัน Thai Smile Bus เดินรถอยู่ 122 เส้นทาง ในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด ประกอบกับ EA ยังเดินหน้าหาลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง เราเชื่อว่า นโยบายการส่งเสริมจากรัฐบาลชุดใหม่จะรวมถึงการทดแทนรถนัสเก่าระบบเชื้อเพลิงฟอสซิลด้วย EV Bus ตามข้อเสนอขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
>>โบรกฯ มอง Valuation หุ้นยังน่าสนใจสะสม
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า มูลค่า (Valuation) ณ ปัจจุบัน ของ EA กลับมามีความน่าสนใจมากขึ้น หลังราคาหุ้น Underperform SET ราว 5% และ 12% ในช่วง 1 เดือน และ 3 เดือน ที่ผ่านมาจากการรับรู้ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ที่มีการส่งมอบ EV Bus ล่าช้ากว่าคาด
รวมถึงยอดคำสั่งซื้อในอนาคต และความกังวลต่อข่าวลบ เกี่ยวกับคุณภาพของแบตเตอรี่ อย่างไรก็ตาม เรายังแนะนำ ซื้อ จาก Valuation หุ้น ณ ปัจจุบัน เทรดอยู่ในระดับที่ต่ำ เทียบกับผลการดำเนินงานปี 66 คิดเป็น P/E ที่ 26 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่อยู่ในระดับ 36 เท่า
ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เสริมว่า ยังคงคำแนะนำการลงทุน EA เป็นซื้อเช่นเดิม เนื่องจากราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน มีอัพไซด์ค่อนข้างสูงกว่า 20% แต่แนะนำถือลงทุนระยะยาว 12 เดือนขึ้นไป จากแนวโน้มอุตสาหกรรม EV เติบโต แต่ในระยะสั้น การฟื้นตัวของราคาหุ้นมีโอกาสถูกจำกัด จากความเสี่ยงเข้าสู่ Recession อาจส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงระบบขนส่งสู่ EV ช้ากว่าคาดได้
>>ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ ‘ซื้อ’
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ ‘ซื้อ’ เนื่องจากมองว่า ผลการดำเนินงาน
ของ EA ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องถึงปี 68 เป็นอย่างน้อย หนุนโดยอุตสาหกรรม EV ที่เติบโต ตาม
การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีสู่ระบบพลังงานสะอาด อีกทั้ง Valuation หุ้น ณ ปัจจุบัน ยังค่อนข้างถูก อีก
ด้วย
กล่าวโดยสรุป
บล.ยูโอบีฯ แนะนำซื้อ ในราคา 100 บาท
บล.ดีบีเอสฯ แนะนำซื้อ ในราคา 93 บาท
บล.หยวนต้า แนะนำซื้อ ในราคา 80 บาท
บล.ดาโอ แนะนำซื้อ ในราคา 80 บาท
บล.พาย แนะนำซื้อ ในราคา 68 บาท
ราคาเฉลี่ยคือ 84 บาท
หากอ้างอิงข้อมูลของนักวิเคราะห์ ดูเหมือนว่าผลการดำเนินงานระยะสั้นของ EA ยังถูกฉุดรั้งนิดหน่อย ตามการส่งมอบ EV Bus ช่วงครึ่งปีแรกล่าช้ากว่าคาด แต่ส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นว่า จะสามารถเร่งส่งมอบได้มากขึ้นช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และสามารถรักษายอดการส่งมอบให้อยู่ในระดับสูงได้ ตามการเติบโตของอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานในระยะ
ยาว