Monday, 8 July 2024
THETOMORROW

สื่อออนไลน์ ลูบปาก!! Line Today ดันยอดวิวช่วงเลือกตั้งมหาศาล!!

🔍 เลือกตั้งดันโต!! แพลตฟอร์ม LINE TODAY ท็อปฟอร์มช่วงเลือกตั้ง 66 ดันยอดชมไลฟ์พาร์ทเนอร์พุ่งสูงถึง 57% โดยเฉพาะช่วงวันเลือกตั้ง ที่พายอดวิวแตะนิวไฮพุ่งสูงเกิน 100 ล้าน!! 

นักวิเคราะห์ ชี้!! ระวังหุ้น STARK ภาค 2 หายนะครั้งใหญ่จ่อนักลงทุนนับหมื่นคน

📌 ไม่นานมานี้ คุณสุนันท์ ศรีจันทรา คอลัมนิสต์และนักวิเคราะห์หุ้น ได้เผยว่า แม้หุ้นบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ปิดฉากการสร้างภาพลวงตาไปแล้ว แต่ไม่ใช่หุ้นตัวสุดท้ายที่จะสร้างหายนะครั้งใหญ่ให้นักลงทุนนับหมื่นคน

เพราะยังมีหุ้นบางตัวที่มีพฤติกรรมไม่แตกต่างจาก STARK และถูกจับตาว่า อีกไม่นานเกินรอบริษัทจะล่มสลายเช่นเดียวกัน

หุ้นเก็งกำไรตัวเล็กนับสิบบริษัท ช่วงนี้สงบราบคาบตามๆ กัน แต่บางตัวยังมีความพยายามสร้างข่าว กระตุ้นราคาหุ้นอยู่เป็นระยะ แม้ว่าธุรกิจหลักกำลังตกต่ำ กลายเป็นสินค้าและบริการที่ตกยุค เนื่องจากผู้บริโภคหันไปใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาไปไกล และสะดวกสบายมากกว่า

หุ้นที่มีพฤติกรรมปั่นราคาจะมีสูตรสำเร็จในลักษณะเดียวกันคือ การสร้างข่าว การขยายการลงทุน การซื้อทรัพย์สิน หรือซื้อกิจการบริษัทอื่น รวมทั้งบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ด้วยกัน

การแจกใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญหรือวอร์แรนต์

การปล่อยข่าวโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของบริษัท และการจุดพลุไล่ราคาหุ้น เพื่อล่อแมลงเม่าให้ตามแห่เข้าไปเก็งกำไร

การซื้อทรัพย์สิน กิจการ หรือบริษัทจดทะเบียนจะใช้เงินจากการออกหุ้นกู้ โดยวิ่งหาบริษัทจัดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือ ซึ่งสามารถแจกเครดิตเกรดดีๆ ได้ง่าย เช่นเดียวกับ STARK และมีบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งเสนอตัวเป็นตัวแทนผู้จำหน่ายหุ้นกู้ จนระดมเงินจากหุ้นกู้ได้หลายพันล้านบาท

บริษัทจดทะเบียนขนาดเล็กบางแห่งสร้างภาพเป็นกิจการขนาดใหญ่ มีบริษัทย่อยในเครือข่ายจำนวนนับสิบแห่ง จนนักลงทุนมองว่าเป็นกิจการที่มั่นคง ขณะที่มีเจ้ามือคอยดูแล สร้างมูลค่าการซื้อขายแต่ละวันสูง ราคาบางช่วงขึ้นถูกลากขึ้นอย่างร้อนแรงจนดูเหมือนเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่อง

แต่บริษัทพร้อมล่มสลายได้ตลอดเวลา

หุ้นเก็งกำไรตัวเล็กบางตัวมีจำนวนผู้ถือหุ้นหลายหมื่นคน มากกว่าจำนวนผู้ถือหุ้น STARK เสียอีก ซึ่งหากวันใดบริษัทถึงจุดอวสาน จะสร้างความเสียหายให้นักลงทุนจำนวนมากยิ่งกว่า STARK

ผู้บริหารหุ้นเก็งกำไรตัวเล็กบางคนไม่รู้ไปทำเรื่องร้ายๆ อะไรไว้ จึงต้องคอยระวังตัว โดยมีคนคอยเดินติดตามคุ้มกัน เหมือนกลุ่มคนที่ทำธุรกิจสีเทา ทั้งที่เป็นเจ้าของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งต้องดำเนินงานด้วยความโปร่งใส และยึดหลักธรรมาภิบาล

นายเอริค เลอวีน อดีตผู้บริหาร บริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ CAWOW ชาวแคนาดา ซึ่งมาเปิดกิจการฟิตเนส ก่อนหอบเงินสมาชิกหนีคดีฉ้อโกงออกนอกประเทศ โดยยังมีหมายจับติดตามตัวอยู่

ผู้บริหาร CAWOW เคยจ้างตำรวจขับรถตำรวจนำทางจากบ้านย่านฝั่งธนบุรี ส่งถึงสำนักงานย่านสีลม เพื่อคุ้มกัน เพราะรู้ตัวว่ากำลังฉ้อโกง และเกรงกลัวผู้ที่ได้รับความเสียหายจะลอบทำร้าย

ผู้บริหารหุ้นเก็งกำไรตัวเล็กบางคนกำลังก่อพฤติกรรมฉ้อโกง สร้างความเสียหายให้นักลงทุนหรือไม่ จึงต้องจ้างบอดี้การ์ดมาคุ้มกัน

หุ้น STARK เก็บฉากไปแล้ว ทิ้งไว้แต่ซากศพนักลงทุนทั้งหุ้นกู้และหุ้นสามัญนับหมื่นชีวิต แต่หุ้น STARK 2 อาจตามมาในเร็วๆ นี้

อย่าหวังว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์จะป้องกันไม่ให้เกิด STARK ภาค 2 ได้

แต่นักลงทุนต้องป้องกันตัวเอง โดยสำรวจตรวจสอบว่ามีหุ้นเก็งกำไรตัวเล็กตัวใดที่มีพฤติกรรมสร้างภาพ สร้างข่าวกระตุ้นราคาหุ้น มีการซื้อทรัพย์สิน ซื้อกิจการ ออกหุ้นกู้หลายๆ รุ่น และอยู่ในข่ายอาจล่มสลายเช่นเดียวกับ STARK หรือไม่

ถ้ามีหุ้นเล็กตัวอันตรายอยู่ในพอร์ตต้องรีบตัดสินใจขายทิ้งทันที จะขาดทุนเท่าไหร่ก็ช่าง

เพราะถ้าชะล่าใจ หรือทำใจตัดขายขาดทุนไม่ได้ จะเสียใจที่ตกเป็นเหยื่อหุ้น STARK 2 ในภายหลัง

ส่องค่าเหนื่อย 'เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์'

🔍หากพูดถึงนักเตะไทยที่ค้าแข้งในต่างแดน ก็ต้องนึกถึง ‘เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์’ นักเตะดาวรุ่งของไทยที่ไปค้าแข้งในญี่ปุ่น กับสโมสร ‘คาวาซากิ ฟรอนตาเล่’ 

แต่เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวออกมาว่าจะย้ายมาสวมเสื้อ ‘บีจี ปทุม ยูไนเต็ด’ โดยมีค่าตัวย้ายทีมแตะ 70 ล้านบาท ในระยะสัญญา 3 ปี ถ้าคิดเป็นวันก็ตกวันละ 6 หมื่นบาทเลยทีเดียว

4 แชโบล เกาหลีใต้ จะสร้าง 'รถยนต์ไฟฟ้า' ที่ดีที่สุดในโลก!!

🔍 ตลาด EV มีสะเทือน!! เมื่อ 4 บริษัทยักษ์ใหญ่ทางธุรกิจ (แชโบล) ของเกาหลีใต้ ประกอบด้วย Samsung, SK, LG และ Hyundai Motor จับมือเป็น ‘พันธมิตร EV’ ดึงศักยภาพและจุดแข็งของแต่ละบริษัท บุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเต็มสูบ ✨🚙

'อินทัช' ฟันปันผล AIS 10 ปี แสนล้าน!!

📌กำไรอื้อซ่า!! ส่องเงินปันผลย้อนหลัง 10 ปีที่ ‘อินทัช’ (INTUCH) ได้รับจากการถือหุ้น ‘AIS’ ในสัดส่วน 40.44% โดยได้รับปันผลในระดับไม่ต่ำกว่า ‘พันล้าน’ และมีบางปีที่ได้ในระดับ ‘หมื่นล้าน’

จับตา 4 สัญญาณอันตราย อาจเป็นต้นเหตุ ‘วิกฤตการคลัง’ รอบใหม่

📌นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง และอดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ให้มุมมองต่อเศรษฐกิจว่า วิกฤตเพดานหนี้สหรัฐฯ แม้จะมีข้อยุติชั่วคราวไปแล้ว แต่ได้สะท้อนปัญหาการคลังที่รัฐบาลหลายประเทศ รวมทั้งรัฐบาลไทย ซุกไว้ใต้พรมและพร้อมที่จะปรละทุได้อีกทุกเมื่อ หากไม่มีการแก้ไขที่ต้นเหตุ ใน 4-5 ปีข้างหน้า แนวโน้มฐานะการคลังจะเลวร้ายลงจากสาเหตุ 4 ประการ ประกอบด้วย

1. ดอกเบี้ยสูงขึ้นทั่วโลก ทำให้งบชำระหนี้สาธารณะสูงขึ้นอย่างมาก
2. ความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์โลก ทำให้ทุกประเทศต้องจัดงบประมาณด้านการทหารสูงขึ้น
3. การแก้ปัญหาโลกร้อนและการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้รัฐต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น
4. สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) สร้างภาระค่าใช้จ่ายให้กับรัฐในด้านบำเหน็จบำนาญ เบี้ยยังชีพคนชรา และการรักษาพยาบาล

ขณะที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 0.25% เป็น 2.0% อาจเป็นการซ้ำเติมภาระหนี้รัฐบาลและประชาชนขึ้นอีก รวมทั้งยังอาจทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นและเศรษฐกิจในภาพรวมชะลอตัวลง ดังนั้นในภาวะที่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง รัฐบาลอาจต้องเตรียมพร้อมมาตรการกระตุ้นเพื่อพยุงเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อไปได้

อย่างไรก็ดี ภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากทั่วโลกเปิดประเทศหลังโควิด โดยเฉพาะจีน น่าจะเป็นโอกาสเหมาะสมที่จะศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุน Sovereign Wealth Fund ที่มีรายได้มาจากการจัดเก็บค่าเหยียบแผ่นดินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทย โดยกองทุนดังกล่าวควรเข้ามาดูแลปัญหาและต้นทุนที่การท่องเที่ยวก่อเกิดกับประเทศไทย เช่น การประกันภัยและการรักษาพยาบาลนักท่องเที่ยว การบูรณะและฟื้นฟูทรัพยากรที่เสื่อมทรามลง การลดผลกระทบค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นจากรายได้การท่องเที่ยว

‘เมืองไทย’ ปลายทางยอดฮิต เย้ายวน ‘นักท่องเที่ยว LGBTQIAN+’ ทั่วโลก

📌งาน Bangkok Pride 2023 เพิ่งผ่านไป มีผู้เข้าร่วมในงานมากมายทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ 

รู้หรือไม่? ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQIAN+ ติดอันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 4 ของโลก โดยนิยมมาเที่ยวในพื้นที่ขึ้นชื่อ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต เกาะสมุย และพัทยา นอกจากนี้ยังสร้างรายได้สะพัดเข้าไทยกว่า 2.26 แสนล้านบาทด้วย

ส่องท็อป 5 หุ้น IPO ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ช่วง 5 เดือนแรก ปี 66

📌ผ่าน 5 เดือนแรกของปี 2566 แม้สถานการณ์การเมืองของไทยจะยังไม่ชัดเจน แต่ตลาดหุ้นไทยยังคงคึกคัก ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รายงานว่า ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยรวมจำนวน 15 บริษัท แบ่งเป็นจดทะเบียนตลาด SET จำนวน 5 บริษัทและตลาด mai อีก 10 บริษัท คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอ จำนวน 58,295 ล้านบาท

ขณะที่ในตลาดหุ้นเอเชีย 5 เดือนแรก ท็อป 5 หุ้นไอพีโอที่ใหญ่สุด นำโดยธุรกิจธนาคารจากญี่ปุ่น ตามมาด้วย 3 ธุรกิจเหมืองแร่และพลังงาน ของอินโดนีเซีย จะมีบริษัทไหนบ้างและมีมูลค่าไอพีโอเท่าไหร่ ไปติดตามกัน

รวมแหล่งช็อปดัง รอบผังรถไฟฟ้า สายสีเหลือง

🔍 ห้ามพลาด!! ที่กิน ที่เที่ยว ชวนกระเป๋าฉีก ตามแนว ‘รถไฟฟ้าสายสีเหลือง’ ตั้งแต่ช่วงสถานีหัวหมาก-สถานีสำโรง สถานีไหนจะใกล้แหล่งช็อปปิงบ้าง มาดูกันเล้ยยย 🚆✨🛒🛍️

อาณาจักร ‘ตั้งคารวคุณ’ ไม่ได้มีแค่ธุรกิจสี ‘TOA’

📌ตระกูล ‘ตั้งคารวคุณ’ เจ้าของอาณาจักร TOA แบรนด์สีเบอร์ 1 ของไทย กลับมาให้นักลงทุนได้กล่าวถึงอีกครั้ง หลัง ‘วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ’ ทายาทคนโตของ ‘ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ’ มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ‘STARK’ บริษัทที่กำลังมีปัญหาเรื่องความโปร่งใสและไม่ส่งงบการเงินปี 2565 จนทำให้ราคาหุ้นรูดไปกว่า 95% หลังให้กลับมาซื้อขายได้ชั่วคราว 

แม้ว่า TOA จะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับ STARK แต่การที่หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ และเป็นกรรมการของบริษัทเข้าไปเกี่ยวข้อง ได้ส่งผลต่อราคาหุ้นของ TOA เช่นเดียวกัน จากเดิมเมื่อช่วงเดือนก.พ. 66 ราคาหุ้นวิ่งอยู่บริเวณ 36 บาท หลังจากมีข่าวออกมา ส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงไปต่ำสุดที่ 29 บาทต่อหุ้น หรือลดลงเกือบ 20% เมื่อช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ธุรกิจของตระกูลตั้งคารวคุณ ในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงแต่ธุรกิจสีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังได้ขยายการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ในรูปแบบบริษัทโฮลดิ้ง ทั้งธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ และธุรกิจเคมีภัณฑ์ เป็นต้น


TRENDING
© Copyright 2023, All rights reserved. THE TOMORROW
Take Me Top